Food intolerance test

ภูมิแพ้อาหารแฝง FOOD INTOLERANCE คืออะไร

หนึ่งในโรคที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักหรือคุ้นชินกันดีนักกับ โรคภูมิแพ้อาหารแฝง เกินครึ่งของประชากรโลกป่วยเป็นโรคภูมิแพ้อาหารแฝงและมักไม่รู้ตัวว่ามีภาวะนี้อยู่เนื่องจากอาการแพ้มักเกิดได้หลากหลายอาการไม่จำเพาะเจาะจงและไม่ได้เกิดโดยทันที แต่ส่วนใหญ่มีอาการเรื้อรัง ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการนั้นๆ เช่น คัดจมูก ไอ จาม ท้องเสีย ปวดหัว อาการบวมน้ำ ลดน้ำหนักไม่ลง สิวเรื้อรัง หรือการอักเสบของชั้นใต้ผิวหนังในบริเวณต่างๆ

กลไกของการแพ้อาหารแบบแฝง

  • เริ่มจากเมื่อเราบริโภคอาหารที่แพ้เข้าไป เม็ดเลือดขาว (White blood cell) ได้สร้าง Antibody ที่จำเพาะต่ออาหารชนิดที่เราแพ้นั้น ๆ ในทางเดินอาหารของเรา สำหรับอาหารที่ไม่ได้แพ้ก็จะถูกดูดซึมผ่านผนังลำไส้เล็กเพื่อที่จะไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายผ่านตามกระแสเลือดตามปกติ แต่อาหารที่แพ้จะมี Antibody จับกับอาหารที่แพ้ และเกิดเป็นอนุภาคที่ก่อให้เกิดการอักเสบ และอนุภาคเหล่านี้เองจะเดินทางไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แล้วก่อให้เกิดการอักเสบที่ร่างกายตามจุดต่าง ๆ ซึ่งลักษณะอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และชนิดของอาหารที่แพ้ จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โดยจะทำปฏิกิริยากับอาหารที่แพ้ทำลายเนื้อเยื่อของร่างกายเราเองหรือไปรบกวนระบบภูมิต้านทานทั้งร่างกายจนแปรปรวน เนื่องจากร่างกายเข้าใจคลาดเคลื่อนคิดว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมเข้ามา เมื่อเราไม่ทราบยังคงรับประทานต่อ ร่างกายก็ยิ่งต่อต้าน ยิ่งกระตุ้นการสร้าง Antibody มากจนกำจัดไม่หมด ร่างกายก็จะโดน Antibody ทำลาย นำไปสู่เกิดโรคเรื้อรังหรือโรคร้ายแรง เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมัน โรคหัวใจ โรคอ้วน มะเร็ง

ภูมิแพ้แฝงเกิดขึ้นได้อย่างไร

  • เกิดจากกรรมพันธุ์ จากการที่ร่างกายมีการสร้างระบบภูมิคุ้มกันสูงต่ออาหารบางชนิด
  • เกิดจากการที่ร่างกายมีระบทางเดินอาหารผิดปกติ เช่น ระบบภูมิคุ้มกันทางเดินอาหารไม่แข็งแรง ระบบย่อยอาหารไม่มีประสิทธิภาพ ระบบการดูดซึมอาหารผิดปกติ
  • ภาวะเสียสมดุลของจุลชีพในลำไส้ โดยปกติลำไส้ของเรามีจุลชีพอยู่ 3 ประเภท คือ แบคทีเรียที่มีประโยชน์ แบคทีเรียก่อเกิดโรค และยีสต์ ถ้ามีการลดปริมาณของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ เช่น ในคนที่ทานยาฆ่าเชื้อเป็นประจำ ทำให้แบคทีเรียที่ดีตายและลดปริมาณลง แต่ยีสต์กลับเพิ่มปริมาณมากขึ้นในลำไส้ ทำให้เยื่อบุผนังลำไส้รั่ว โมเลกุลของสารอาหารที่เราแพ้จะหลุดรอดเยื่อบุลำไส้เข้าไปกระตุ้นเม็ดเลือดขาว โดยมีการสร้าง Antibody และทำปฏิกิรยากับอาหารที่เราทานเข้าไป ร่างกายจะจดจำว่าอาหารชนิดที่ทานเป็นตัวกระตุ้น เมื่อใดที่รับประทานอาหารชนิดนั้นอีก เม็ดเลือดขาวก็จะสร้าง Antibody ทำปฏิกิริยาส่งผลให้เกิดการระคายเคืองของเยื่อบุลำไส้มากขึ้น และนำไปสู่ปัญหาลำไส้แปรปรวน ลำไส้รั่วซึม (Leaky Gut Syndrome)

หากเรายังทานอาหารเหล่านั้นอยู่ ร่างกายจะถูกกระตุ้นอยู่เรื่อยๆส่งผลกระทบต่อระบบภูมิต้านทาน เกิดกระบวนการอักเสบ ขึ้นอยู่กับว่าการอักเสบจะเกิดกับอวัยวะใด เช่น

- ถ้าเกิดการอักเสบที่เส้นเลือด จะทำให้เส้นเลือดบวม ความดันโลหิตสูง

- ถ้าเกิดการอักเสบที่สมอง อาจให้นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน

- ถ้าเกิดการอักเสบที่บริเวณข้อ จะทำให้ปวดตามข้อ ปวดกระดูก เป็นรูมาตอยด์ SLE

- ถ้าเกิดการอักเสบที่ผิวหนัง จะทำให้เกิดผดผื่นคัน สิว แผลในปากเรื้อรัง

จะเห็นได้ว่า โรคเรื้อรังต่างๆที่เกิดขึ้น มักมีโรคลำไส้รั่วซึมเป็นสาเหตุที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง (Food Intolerance Test) จึงมีความจำเป็นสำหรับการตรวจวินิจฉัยสำหรับกลุ่มโรคเรื้อรังและอาการเจ็บป่วยอื่นๆที่ไม่ทราบสาเหตุ ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้เท่านั้น

การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง (Food Intolerance test) สามารถตรวจการแพ้อาหารได้ 222 ชนิด ครอบคลุมอาหารที่รับประทานเป็นประจำ ใช้วิธีการ

เจาะเลือด โดยไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร ผลการตรวจจะแสดงระดับสีของการแพ้ ออกเป็น 3 ระดับ คือ

1. สีแดง : แพ้ระดับรุนแรง ควรงดรับประทานอย่างน้อย 3 6 เดือน

2.สีเหลือง : แพ้ระดับปานกลาง ควรลดปริมาณหรือรับประทานไม่เกิน 1 ครั้ง/สัปดาห์

3.สีเขียว : ไม่มีอาการแพ้ สามารถรับประทานได้ตามปกติ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy